องค์ประกอบของ Technical SEO มีอะไรบ้าง?
การทำ SEO เต็มไปด้วยองค์ประกอบหลายประการไม่ว่าจะเป็นทางด้าน Technical, On-page, หรือ Off-page ก็ตาม ซึ่งในแต่ละส่วนก็มักจะมีรายละเอียดต่าง ๆ มากมาย ดังนั้นบทความนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ Technical SEO แท้จริงแล้วทางด้านเทคนิคนั้นมีอะไรบ้างที่ทุกคนควรให้ความสนใจ
Technical SEO
Technical SEO คือ การทำให้เว็บไซต์มีคุณภาพทางด้านเทคนิคทั้งในเรื่องของความเร็วเว็บและการตอบสนองต่อผู้ใช้งานอย่างไม่มีอะไรกีดขวาง ซึ่งจะประกอบไปด้วย
-
URL SEO Friendly คือ
URL SEO Friendly คือ ชื่อ Domain, ชื่อเว็บต่าง ๆ ซึ่งควรจะอยู่ในรูปแบบของภาษาอังกฤษ เพราะถ้าหากเราตั้งชื่อเว็บไซต์เป็นภาษาไทย เวลาที่เราต้องการ Copy ไปวางที่อื่นมันจะเป็นภาษาต่างดาวและการตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษนี้จะช่วยทำให้ Bot เข้ามา Index (เก็บข้อมูล) บนเว็บไซต์ของเราได้ง่ายขึ้นและไม่โดนหักคะแนนจาก Google
-
SSL/HTTPs คือ
SSL/HTTPs เปรียบเสมือนยามเฝ้าเว็บไว้คอยป้องกันข้อมูลบนเว็บไซต์ของเรา ซึ่งจำเป็นต่อการทำ SEO ด้วยเช่นกัน
-
Robots.txt คือ
Robots.txt คือ การปล่อย Google Bot เข้ามาตรวจข้อมูลบนเว็บของเรา ซึ่งถ้าหากอยากเช็คว่า Robots.txt เข้ามาตรวจจับข้อมูลบนเว็บไซต์ของเราปกติดีหรือไม่? สามารถเชื่อมโยงเว็บไซต์เข้ากับ Google Search Console เพื่อตรวจสอบ
-
404 Page not found คือ
404 Page not found คือ หน้าเสียของเว็บไซต์ สามารถเช็ค 404 Page not found นี้ได้ที่ Google Search Console ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าหากเว็บไซต์ใดพบ 404 ต้องลบหน้านั้นทิ้งทันทีเพราะเป็นข้อเสียของการทำ SEO อย่างมาก
-
XML Sitemap คือ
XML Sitemap คือ ไฟล์โครงสร้างเว็บไซต์เพื่อให้ Google เข้าใจเว็บไซต์ของเราได้ง่าย ๆ ซึ่งมีวิธีการสร้าง XML Sitemap ได้หลากหลายวิธี แต่ถ้าหากเว็บไซต์ของเราใช้ WordPress ในการทำเว็บก็จะต้องใช้ปลั๊กอินในการสร้าง XML Sitemap ขึ้นมา เช่นปลั๊กอิน Yoast, SEOPress, หรือ SEO WP เป็นต้น ซึ่งปลั๊กอินเหล่านี้จะสร้าง XML Sitemap ให้อัตโนมัติ แต่ถ้าหากไม่ได้ใช้ WordPress ในการสร้างเว็บไซต์ อาจจะต้องให้ฝ่ายโปรแกรมเมอร์ช่วยสร้างไฟล์ XML Sitemap ขึ้นมาและหลังจากนั้นก็นำ XML Sitemap นี้ไปส่งที่ Search Console เพื่อให้ Google เข้ามาเก็บข้อมูลบนเว็บไซต์
-
Bread Crumb Menus คือ
Bread Crumb Menus คือ ตัวช่วยให้ Google เข้ามาเก็บข้อมูลบนเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีการแบ่งหมวดหมู่หรือมีข้อมูลเยอะและต้องการแบ่งหมวดหมู่อย่างชัดเจน นอกจากนี้การสร้าง Bread Crumb Menus จะทำให้ Google เข้ามาเก็บข้อมูลง่ายขึ้นแล้วยังทำให้ User เข้าใจเว็บไซต์ได้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งการตั้งชื่อหมวดหมู่ควรเป็นภาษาอังกฤษ
-
Canonical URL คือ
การทำ Canonical URL คือ บางครั้ง Google อาจจะเข้ามาเก็บข้อมูลบนเว็บไซต์ของเราใน Keyword ที่เราต้องการ แต่ไม่ถูกหน้า ซึ่งการทำ Canonical URL จะเป็นการชี้ไปยังหน้าที่เราต้องการ ซึ่งถ้าหากสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress จะมีปลั๊กอินในการทำ Canonical URL เช่นเดียวกัน
Lazy Loading For Images คือ
Lazy Loading For Images คือ การทำให้รูปภาพบนเว็บไซต์ขึ้นทีละจังหวะเพื่อลดอัตราเว็บไซต์โหลดช้า
Page Speed คือ
Page Speed คือ ความเร็วของเว็บ ซึ่งเว็บไซต์ที่ดีควรโหลดไม่เกิน 3 วินาที โดยสามารถใช้เครื่องมือหรือโปรแกรมต่าง ๆ ในการเช็ค Page Speed ของเว็บไซต์ได้ เช่น Page Speed Insight, gtmetrix, Lighthouse เป็นต้น
Mobile Friendly คือ
Mobile Friendly คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะกับการใช้งานบนทุกอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ ไอแพด โทรศัพท์มือถือ ซึ่งวิธีการทำให้เว็บไซต์เป็น Mobile Friendly จะอยู่ในขั้นตอนการออกแบบให้เป็นและกำหนดเว็บไซต์ให้เป็นแบบ Responsive เสียก่อน
Ranking Signals เป็นฟังก์ชันใหม่ที่ Google ได้เพิ่มเข้ามา ซึ่งจะประกอบไปด้วย
- Mobile First Indexing คือ การเข้าไปเก็บข้อมูลบนมือถือก่อน Desktop
- Safe Browing คือ การใช้งานเว็บไซต์อย่างปลอดภัยไม่มีไวรัสต่าง ๆ
- Intrusive interstitials คือ Pop-up ต่าง ๆ ที่ขึ้นมาบังหน้าจอเยอะเกินไป จะทำให้ Google ปรับคะแนน SEO ลดลง
- Core Web Vitals คือ
-
Core Web Vitals คือ
ฟังก์ชันที่ Google เพิ่มเข้ามาเพื่อให้เราเช็คความเร็วของเว็บไซต์ โดยจะโฟกัสไปที่ UX (User Experience) เป็นหลัก ซึ่ง Core Web Vitals ตัวใหม่นี้ที่ Google ได้เพิ่มเข้ามา จะประกอบไปด้วย
อ่านบทความเกี่ยวกับ : Core Web Vital คืออะไร
-
LCP หรือย่อมาจาก Largest Contentful Paint คือ
- ตัวบ่งชี้ผ่านเครื่องมือต่าง ๆ ว่าเว็บไซต์ของเราโหลดเร็วหรือไม่ โดยโฟกัสไปที่ Content ขนาดใหญ่ที่สุดบนเว็บไซต์ เช่น ถ้าหากเว็บไซต์มีรูปขนาดใหญ่จะทำให้หนักและโหลดช้า
-
CLS หรือย่อมาจาก Cumulative Layout Shift คือ
- ตัวบ่งชี้ผ่านเครื่องมือต่าง ๆ ว่าเว็บไซต์ของเรานั้นกระตุกหรือไม่? เคลื่อนไหวมากน้อยแค่ไหน เช่น เวลากดปุ่มหรือเลื่อนเมาส์ไปยังปุ่มต่าง ๆ หน้าเว็บสั่นหรือไม่ ซึ่งถ้าหากมีความผิดพลาดบนเว็บไซต์ของเราก็จะส่งผลเสียโดยตรงต่อเว็บไซต์ของเรานั่นเอง
-
FID หรือย่อมาจาก First Input Delay คือ
- การวัดความเร็วของเว็บไซต์ จะเป็นการวัดจากเวลาที่ผู้ใช้งานทำ Action บนเว็บไซต์ แล้วตอบสนองต่อผู้ใช้งานเร็วมากน้อยเพียงใด เช่น กดปุ่มไปหน้าต่อไปแ ล้วหน้าใหม่ขึ้นมาทันทีหรือไม่? โดยสามารถใช้เครื่องมือ Page Speed Insight, gtmetrix, Lighthouse เป็นต้น เหล่านี้ในการเช็ค Core Web Vitals ได้
ทั้งหมดนี้เป็นองค์ประกอบทางด้านเทคนิคของการทำ SEO ซึ่งถ้าหากอยากให้เว็บไซต์ถูกต้องตามหลักที่ Google กำหนดไว้ อย่าลืมเช็คลิสต์ว่าเว็บไซต์ของคุณนั้นปรับให้ตรงตามหลัก SEO นี้แล้วหรือยัง?
ซึ่ง Enterblueprint บริษัท รับทำ SEO ยินดีให้คำปรึกษาในเรื่องของเว็บไซต์ และเทคนิคการทำ SEO ในด้านต่าง ๆ เป็นอย่างยิ่ง
- สนใจทำ SEO สามารถติดต่อได้ที่ Line@ : Enterblueprint