Voice Search Google คืออะไร
ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีได้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้หลายๆ ธุรกิจต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ
โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจสินค้าออนไลน์ที่ต้องใช้เว็บไซต์ในการโปรโมทสินค้าหรือบริการ จำเป็นต้องหาเครื่องมือดีๆ เข้ามาช่วยจัดการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด
หนึ่งในฟังก์ชันที่เข้ามาช่วยทำให้ผู้ใช้งานเกิดความสะดวกในการค้นหาข้อมูล ก็คือ การค้นหาข้อมูลด้วยเสียง
ซึ่งในตอนนี้กำลังกำลังเป็นที่นิยมมาก และมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะกับการใช้งานอุปกรณ์ผ่านระบบเสียง
เช่น Siri, Google Assistant, หรือ Alexa การที่เว็บไซต์หรือธุรกิจปรับการทำ SEO ให้เข้ากับแนวโน้มนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก
ยิ่งถ้าหากในเชิงพาณิชย์ที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือดด้วยแล้ว ยิ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ทำความรู้จัก Voice Search SEO
Voice Search คือ การปรับปรุงเว็บไซต์หรือเนื้อหาในเว็บไซต์เพื่อให้เหมาะสมกับการค้นหาด้วยเสียง
ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต โดยอาศัยการพูด หรือเสียงเป็นเส้นทางในการค้นหาข้อมูล ซึ่งรูปแบบการค้นหาด้วยเสียงนี้ เริ่มมีความนิยมมากขึ้น
การปรับปรุงเว็บไซต์ด้วย Voice Search ควรเน้นให้มีความสอดคล้องกับภาษาและออกแบบการค้นหาที่มีลักษณะคำถามมากขึ้น เนื้อหาควรเข้าใจง่าย ตอบโจทย์คำถามที่เป็นไปได้ และมีความสอดคล้องกับคำสั่งการค้นหาที่อาจถูกใช้ในการค้นหาด้วยเสียง
เช่น “ฉันต้องการทราบร้านอาหารใกล้ๆ” หรือ “ฉันต้องการทราบสภาพอากาศในวันนี้” เป็นต้น
ดังนั้นการทำ Voice Search จึงเป็นการปรับแต่งเนื้อหาและโครงสร้างเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับลักษณะการค้นหาด้วยเสียงเพื่อให้มีโอกาสที่จะปรากฏในผลการค้นหามากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเพิ่มโอกาสในการเจอกลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์ให้มากที่สุด
ความสำคัญของ Voice Search SEO
ด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจึงทำให้ผู้ที่ทำธุรกิจออนไลน์ต้องมีการปรับตัวเพื่อให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายสามารถเข้ามาเลือกใช้สินค้าหรือบริการได้อย่างสะดวกสบายเพิ่มขึ้น
ซึ่งในส่วนของการปรับปรุงรูปแบบการทำ SEO ด้วย Voice Search จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะ
-
เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้
การใช้งานเสียงสะดวกกว่าการพิมพ์ โดยเฉพาะเมื่อผู้คนอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สะดวกที่จะพิมพ์ เช่น ขณะขับรถ หรือกำลังทำงานบ้าน
-
การค้นหาแบบออแกนิค
ผู้ค้นหาใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติได้ดีขึ้นเมื่อใช้เสียง ซึ่งอาจมีการใช้คำที่แตกต่างจากคำค้นหาที่พิมพ์
-
เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
การปรับการค้นหาด้วยเสียงเป็นเรื่องที่สำคัญในการเพิ่มโอกาสในการแสดงโฆษณา การขายสินค้าหรือบริการ และเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีการปรับการค้นหาเสียง SEO
หลังจากที่รู้จักรูปแบบ Voice Search SEO และความสำคัญของการใช้งานด้วยรูปแบบนี้กันไปแล้ว คราวนี้มาทำความรู้จักในส่วนของวิธีการปรับปรุงการค้นหาด้วยเสียงกันบ้าง
-
เพิ่มคำสำคัญที่ถูกต้อง
คำสำคัญควรออกแบบ ให้มีความสอดคล้องกับแนวโน้มของการค้นหาด้วยเสียง เช่น “ค้นหาร้านอาหารใกล้ฉัน” หรือ “ซื้อเสื้อผ้าออนไลน์”
-
สร้างเนื้อหาแบบคำถามและคำตอบ
เลือกใช้คำถามที่เป็นไปได้มากที่สุดในเนื้อหา และให้คำตอบที่ถูกต้องและเกี่ยวข้อง
-
เว็บไซต์ที่เรียบง่ายและเรียงลำดับได้ดี
การทำให้เว็บไซต์ของคุณมีความเรียบง่ายและออกแบบโครงสร้างให้ชัดเจนจะช่วยทำให้การค้นหาด้วยรูปแบบเสียงมีประสิทธิภาพมากขึ้น
-
ใช้ Schema Markup
การใช้ Schema Markup ช่วยให้ข้อมูลบนเว็บไซต์ มีความชัดเจน และเชื่อมต่อกับโปรแกรมเสียงได้ดีมากขึ้น
-
ทดสอบและปรับปรุง
ทำการทดสอบและวิเคราะห์ผลการใช้งานด้วยรูปแบบการค้นหาด้วยเสียง จากนั้นทำการปรับปรุงเนื้อหาและโครงสร้างเว็บไซต์ตามผลการวิเคราะห์ที่ได้รับ
-
การปรับตัวเข้ากับอุปกรณ์พกพา
การค้นหาข้อมูลด้วยรูปแบบเสียง จะเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์พกพา ดังนั้นควรให้ความสำคัญกับการปรับเว็บไซต์เพื่อให้สามารถแสดงผลบนอุปกรณ์เหล่านี้ได้ดีขึ้น
การปรับปรุงเว็บไซต์ด้วยรูปแบบ Voice Search เป็นการปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกของการค้นหาแบบออนไลน์
การที่เว็บไซต์หรือธุรกิจสามารถปรับตัวและตอบสนองต่อการค้นหาด้วยเสียง จะเป็นคำตอบที่ช่วยให้คุณเป็นหนึ่งในการแข่งขันบนโลกออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขั้นตอนการใช้งาน Voice Search มีอะไรบ้าง
การใช้งาน Voice Search นั้น เริ่มต้นด้วยการปรับแต่งเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับแนวโน้มการค้นหาด้วยเสียง ซึ่งมีขั้นตอนสำหรับใช้งาน Voice Search SEO ดังนี้
-
วิเคราะห์และเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย
ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์และเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย รวมไปถึงข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายว่าส่วนใหญ่จะใช้ภาษา หรือคำค้นหาเชิงเสียงในรูปแบบไหนบ้าง
-
การค้นหาคำสำคัญ
ทำการวิเคราะห์และเลือกคำสำคัญที่เกี่ยวข้องและมักจะถูกใช้ในการค้นหาด้วยเสียง ซึ่งอาจจะมีการใช้คำค้นหาที่มีลักษณะเป็นคำถาม หรือคำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับคำทักทาย
-
สร้างเนื้อหาที่เข้ากับคำค้นหา
สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ โดยให้คำตอบตรงกับคำถามที่ผู้ใช้งานเสียงมักจะถามบ่อยๆ หรือให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหา
-
Optimize โครงสร้างของเว็บไซต์
ออกแบบแนวทางการจัดโครงสร้างของเว็บไซต์ให้เข้ากับการค้นหาด้วยเสียง เช่นการสร้างหน้าเพจที่ชัดเจนและเข้าถึงง่าย ซึ่งอาจเลือกใช้ Schema Markup เข้ามาช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณมีความสอดคล้องกับเสียงค้นหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
-
Optimize สำหรับอุปกรณ์พกพา
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณ ถูกออกแบบมาให้สามารถแสดงผลได้ดีบนอุปกรณ์พกพา เช่นมือถือและแท็บเล็ต รวมไปถึงอุปกรณ์ระบบต่างๆ
-
ติดตามและปรับปรุง
ติดตามผลการค้นหาด้วยเสียง และดำเนินการปรับปรุงเนื้อหาและโครงสร้างเว็บไซต์ตามผลการวิเคราะห์
-
ระบบ AI และ Chatbots
การใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์และแชทบอท เข้ามาช่วยตอบคำถามและให้ข้อมูลเสริมสำหรับผู้ใช้งานเสียง
การใช้งาน Voice Search ควรออกแบบให้มีความสอดคล้อง และความพร้อมของเว็บไซต์ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อแนวโน้มการค้นหาด้วยเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ต้องไม่ละเลยการปรับแต่งเนื้อหาและโครงสร้าง เพื่อให้เข้ากับแนวโน้มการค้นหาด้วยรูปแบบนี้มากที่สุด
ข้อดีของการใช้งาน Voice Search มีอะไรบ้าง
การใช้งาน Voice Search นั้น มีข้อดีมากมายที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานเสียงได้ดังนี้
-
เพิ่มความสะดวกสบาย
การใช้งานด้วยเสียงช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องพิมพ์ ซึ่งเหมาะสำหรับสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น ขณะขับรถ หรือกำลังทำงานอื่น ๆ พร้อมกัน
-
การค้นหาออแกนิค
การใช้งานด้วยเสียง จะมีลักษณะเป็นคำถาม หรือประโยคธรรมดาที่มีความเป็นธรรมชาติ เช่น “ฉันต้องการร้านอาหารใกล้ๆ” หรือ “แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงใหม่”
-
การทำ SEO ที่เข้ากันได้กับเสียง
การปรับเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับการค้นหาด้วยเสียง จะช่วยเพิ่มโอกาสในการปรากฏผลการค้นหาได้ง่ายมากขึ้น
-
เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ
การทำ Voice Search SEO ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยจะช่วยทำให้ผู้คนค้นหาและพบธุรกิจของคุณได้ง่ายมากขึ้น ส่งผลทำให้มียอดขายเพิ่ม และเพิ่มการรับรู้แบรนด์สินค้า หรือบริการได้เป็นอย่างดี
-
สร้างประสบการณ์ผู้ใช้ให้ดีขึ้น
การตอบสนองต่อการค้นหาด้วยเสียงที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับผู้ใช้งาน ทำให้เพิ่มความพึงพอใจและความเชื่อมั่นในแบรนด์
-
การเข้าถึงสำหรับกลุ่มเป้าหมายใหม่
การใช้งานด้วยเสียงช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่อาจไม่ได้ใช้การค้นหาด้วยตัวอักษรเป็นหลักมาก่อน
การใช้งาน Voice Search มีข้อเสียอย่างไรบ้าง
การใช้งาน Voice Search นั้น แม้ว่าจะมีข้อดีมากมาย ที่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างมาก แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่ด้วยเช่นกัน ดังนี้
-
การติดตั้งคำถามที่ซับซ้อน
ในบางกรณี การค้นหาด้วยเสียง อาจเจอคำถามที่ซับซ้อน หรือมีความยากลำบากในการตอบสนอง
-
ข้อผิดพลาดในการระบุคำ
ระบบเสียงอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการระบุคำ หรือประโยคได้ง่าย ซึ่งอาจส่งผลต่อการค้นหาที่ไม่ถูกต้อง
-
ความสำคัญของการอัพเดทข้อมูล
เนื่องจากโมเดล AI และการประมวลผลภาษาธรรมชาติต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นความสำคัญของการอัพเดทข้อมูลและการเข้ากันได้กับเทคโนโลยีใหม่ ๆ จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
-
การแข่งขันที่สูง
การใช้งานด้วยรูปแบบเสียงกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น ดังนั้นธุรกิจต่างๆ ก็ทำการปรับปรุง Voice Search เพื่อการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าให้เหมาะสมที่สุด
การใช้งาน Voice Search มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณา ดังนั้นควรพัฒนาและปรับปรุงกลยุทธ์ SEO ของคุณ ให้มีความเหมาะสมต่อธุรกิจมากที่สุด
และถ้าหากในตอนนี้คุณกำลังมองหาที่ปรึกษามืออาชีพมาคอยให้คำแนะนำ สามารถติดต่อทีมงาน Enterblueprint บริษัท รับทำการตลาดออนไลน์ ของเราได้ทุกเวลา
Enterblueprint บริษัทการตลาดออนไลน์ ที่พร้อมให้บริการด้าน Digital Marketing เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพของการทำงานและบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO, Content, Backlink, และทำเว็บไซต์ด้วย Wordpress ตั้งแต่เริ่มต้นไปจนถึงการ Launch เว็บไซต์ ในราคากันเอง
🌟 Services 🌟
สนใจการตลาดออนไลน์และสนใจร่วมงานกับ Enterblueprint สามารถติดต่อเพื่อขอรายละเอียดได้ ที่นี่!
💙 ติดต่อ Enterblueprint 💙
🟢 Line@ : Enterblueprint
🔵 Facebook : Enterblueprint
🟠 Website : www.Enterblueprint.com
🟡 E-mail : [email protected]