ppc ย่อมาจาก Pay Per Click คือ
PPC ย่อมาจาก คำว่า ” Pay Per Click ” ซึ่งเป็นแนวทางการโฆษณาออนไลน์ที่มีความเกี่ยวข้องกับการชำระเงินเมื่อมีผู้คลิกโฆษณาของคุณบนพื้นที่โฆษณาในเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่คุณเลือกไว้ รูปแบบนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในการโฆษณาออนไลน์ เพราะช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถควบคุมได้อย่างเฉพาะเจาะจงต่อกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถวัดผลและปรับแก้กลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็วตามผลการคลิกจริงๆ
ทำความรู้จัก วิธีการทำงานของ PPC
วิธีการทำงานของ PPC หรือ Pay Per Click คือ ผู้โฆษณาจะสร้างโฆษณาและเลือกคำสำคัญ (Keyword) ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรือสินค้าบริการของตน พอ keyword ถูกค้นหาบนเว็บไซต์ค้นหาหรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ โฆษณาจะปรากฏขึ้นบนพื้นที่ที่กำหนดไว้ และผู้โฆษณาจะต้องชำระเงินเมื่อมีผู้ใช้งานคลิกเข้าไปดูโฆษณา
หลักการทำงานของ PPC
หลักการทำงานของ PPC คือ การประมาณราคาที่คุณพร้อมจะชำระต่อคลิก (Cost Per Click หรือ CPC) โดยพิจารณาจากปัจจัยที่มีผลต่อราคานี้รวมถึง keyword ที่คุณเลือก ความแข็งแกร่งของคู่แข่ง และความสนใจจากผู้โฆษณาคนอื่น ๆ ในระบบ
การสร้างและจัดการแคมเปญ PPC ที่มีประสิทธิภาพเกี่ยวข้องกับการเลือกคำสำคัญที่เหมาะสม ด้วยการเขียนข้อความโฆษณาที่น่าสนใจ การกำหนดกลยุทธ์การเสนอราคา และการติดตามและวิเคราะห์ผลลัพธ์เพื่อปรับปรุงแคมเปญจะช่วยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สรุป PPC หมายถึง รูปแบบการโฆษณาออนไลน์ที่ผู้โฆษณาจะชำระเงินเมื่อมีผู้คลิกโฆษณาของพวกเขา รูปแบบนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในการตลาดออนไลน์เนื่องจากสามารถวัดผลและปรับแก้กลยุทธ์ได้ตามผลการคลิกจริงๆ ที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ
อย่างเช่น Google Ads, Facebook Ads, Twitter Ads และอื่น ๆ เป็นต้น
Pay Per Click กับ SEO แตกต่างกันอย่างไร?
Pay Per Click (PPC) และ Search Engine Optimization (SEO) เป็นสองแนวทางการตลาดออนไลน์ที่มีวัตถุประสงค์ในการเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์และเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณให้แก่กลุ่มเป้าหมายของคุณ
แม้ว่าทั้งสองแนวทางจะมีวัตถุประสงค์เดียวกัน คือเพิ่มการเข้าชมและการสร้างยอดขาย แต่วิธีการและลักษณะการทำงานของพวกเขานั้นแตกต่างกันอย่างมาก เรามาดูกันว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
-
Pay Per Click (PPC)
การเสียค่าใช้จ่ายใน PPC นั้น คุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นรายครั้งที่มีผู้ใช้งานคลิกเข้าไปที่โฆษณาของคุณ ค่าใช้จ่ายนี้เกิดขึ้นทันทีที่มีการคลิก และจะหยุดเมื่อคุณต้องการจะหยุดการโฆษณา
-
- ผลลัพธ์ทันที : PPC จะทำให้โฆษณาของคุณปรากฏในผลการค้นหาหรือพื้นที่โฆษณาทันทีที่คุณตั้งค่าแคมเปญ ผู้ใช้งานที่คลิกเข้ามาจะเห็นโฆษณาของคุณได้อย่างรวดเร็ว
- ควบคุมเป้าหมาย : คุณสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายของ keyword ที่เหมาะสม และนำมาปรับแก้กลยุทธ์โฆษณาได้ตามความต้องการ นอกจากนี้คุณยังสามารถระบุเขตที่ต้องการแสดงโฆษณา และวิเคราะห์ข้อมูลผู้คลิกได้อย่างละเอียด
-
Search Engine Optimization (SEO)
-
- ไม่มีค่าใช้จ่ายต่อคลิก : SEO ไม่เสียค่าใช้จ่ายต่อการคลิกเหมือนกับ PPC แต่ค่าใช้จ่ายมาจากการพัฒนาและการจัดการเนื้อหา เวลา และทรัพยากรทางการตลาด
- ผลลัพธ์ค่อนข้างช้า : การเพิ่มความเข้าใจของเว็บไซต์ในส่วนของ SEO จะต้องใช้เวลาในการปรับปรุงเนื้อหา เว็บไซต์จึงจะมีโอกาสปรากฏในผลการค้นหาที่สูงขึ้น
- ความยากลำบากในการควบคุม : ผลการค้นหาของ SEO จะขึ้นกับอัลกอริทึมของเครื่องมือค้นหา และเว็บไซต์อื่น ๆ ที่แชร์เนื้อหาของคุณ คุณไม่สามารถควบคุมผลการค้นหาทั้งหมดได้
- ยาวนานและยังคงมีผลในระยะยาว : การปรับปรุง SEO จะใช้เวลาในการเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ และผลการค้นหาที่ดีจะส่งผลให้เว็บไซต์มีผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณปรากฏในผลการค้นหาอย่างยาวนาน
ทั้ง PPC และ SEO เป็นเครื่องมือ การตลาดออนไลน์ ที่มีความสำคัญ แต่มีลักษณะและวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน
ดังนั้นคุณควรทำการวิเคราะห์และตัดสินใจเลือกใช้ทรัพยากรต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และแผนการตลาดของคุณ
Pay Per Click เหมาะกับธุรกิจแบบไหน?
Pay Per Click (PPC) เป็นแนวทางการโฆษณาออนไลน์ที่มีความหลากหลายและเหมาะสำหรับธุรกิจที่แตกต่างกัน แต่มีบางธุรกิจที่จะได้ประโยชน์มากขึ้นจากการใช้ PPC ในด้านการตลาด เช่น
-
การค้าปลีกออนไลน์
ธุรกิจการค้าปลีกออนไลน์ เช่น ร้านค้าเสื้อผ้า รองเท้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เหมาะที่จะใช้ PPC เพื่อทำการโฆษณาผลิตภัณฑ์และดึงดูดความสนใจของผู้คนที่กำลังมองหาสินค้าในช่วงเวลานั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี
-
การบริการทางด้านเทคโนโลยี
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านเทคโนโลยี เช่น การพัฒนาซอฟต์แวร์ การออกแบบเว็บไซต์ หรือบริการด้านไอทีอื่น ๆ สามารถใช้ PPC เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญและสามารถดึงดูดลูกค้าที่กำลังมองหาบริการในเขตงานนั้นได้เพิ่มมากขึ้น
-
การเดินทางและการท่องเที่ยว
ธุรกิจท่องเที่ยวและการเดินทางสามารถใช้ PPC เพื่อโฆษณาทั้งรูปแบบการ เที่ยวสถานที่ โรงแรม ตั๋วเครื่องบิน และแพ็คเกจท่องเที่ยวต่าง ๆ รวมไปถึงยังช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวที่กำลังค้นหาข้อมูลการเดินทางท่องเที่ยวได้อีกด้วย
-
การศึกษาและการอบรม
ธุรกิจการศึกษาออนไลน์ การอบรมเชิงสัมมนาออนไลน์ หรือเนื้อหาการเรียนรู้อื่น ๆ สามารถใช้ PPC เพื่อโฆษณาคอร์สเรียนหรือการอบรมที่พวกคุณให้บริการได้
-
การเกษตรและการค้าส่งผลิตภัณฑ์อาหาร
ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร ผลิตภัณฑ์อาหาร หรือการค้าส่งผลิตภัณฑ์เกษตร สามารถใช้ PPC เพื่อสร้างความติดตามและเสนอผลิตภัณฑ์แก่กลุ่มเป้าหมาย
-
ธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร
ร้านอาหาร ร้านกาแฟ บริการอาหารสำหรับงานเลี้ยง และธุรกิจเครื่องดื่ม เช่นบาร์ สามารถใช้ PPC เพื่อโฆษณาสินค้าและบริการของพวกคุณแก่ลูกค้าที่กำลังมองหาสถานที่รับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม
อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังในการใช้งาน PPC ก็มีด้วยเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มการแข่งขันที่สูง หรือ การเสียค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น
ดังนั้นก่อนการตัดสินใจเลือกใช้งาน จึงควรทำการวางแผนและวิเคราะห์เป้าหมายของคุณให้ดีเสียก่อน
Content Writer : Wasuratt